วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เขาใหญ่ ของเราสองคน


วันที่ 29 เมษายน 25 54  วันนี้ จะพาคุณภรรยาไปเขาใหญ่  หลังจากเลือกที่พักมาหลายที่ อิอิ แต่คุณภรรยา ไม่ชอบซักทีเลย  อิอิอิอิ
              สุดท้าย ก็ไปได้ที่พักที่  "เขาใหญ่ คีรีธาร รีสอร์ท"
   

            ขับรถออกมา    กินข้าวกันที่ลำตะคอง  สั่งปลาเผา  ภรรยาสั่งตำแตงด้วย แล้วบ่นว่าแมลงวันเยอะ อิอิอิ      กินข้าวกันที่ลำตะคองฝนก็เริ่มตกละ  ก็ขับรถไปเรื่อยๆ เข้าเขตปากช่อง ก็เลี้ยวเข้าถนน ธนรัตน์  ขับไปแวะเซเว่น  แล้วก็หาป้ายบอกที่พัก  ขับไปเรื่อยๆก็ถึงทางเลี้ยว เข้าที่พัก   ประมาณ เจ็ดกิโล ถนน  เป็นหลุมๆๆ  เยอะเหมือนกัน 
              
ที่วัดท่าช้าง มีตลาดนัดด้วย  ได้เดิน ตลาดนัดกันอีกแล้ว
           เข้าถึงที่พัก   เขาใหญ่คีรีธาร   บ้านพักที่เราจองไว้   มาถึง  ฝนยังไม่ตก  ก็เอาของลงเก็บไว้    ออกมาดูตรงระเบียงบ้าน  มี ลำธารน้ำไหลน้ำเยอะมาก  ได้ หอมแก้มภรรยา ชื่นใจจัง                             
บ้านหลังนี้ที่เราเข้าพัก
 

เย็นๆๆ  ฝนตก  เราสองคน ไปตลาดนัด ได้เงาะ  ได้ซื้อ หน่อไม้ ต้ม  แล้วก็ได้ซื้อ นม เอาไว้ถว่ายพระพรุ่งนี้ด้วย
                เย็นๆกลับมาที่พัก  กะว่าจะสั่งอาหารมากิน ที่ระเบียงห้อง แต่ฝนตกเลยเปลี่ยนใจไปกินที่ร้านดีกว่า
สั่งอาหาร มาสามอย่าง  แต่ละจานเยอะมาก  กินกันสองคน   ไม่หมด  รสชาด อาหารอร่อย   มาก แถมมีเจ้าถิ่นสองตัวมาต้อนรับด้วยนั่งกินไป ก็มายืนส่ายหางไม่ได้กินก็ยืนเฝ้าไว้ ถ้าหมดแล้ว ก็มีสะกิด 
 คืนนี้ ได้นอนกอด คุณภรรยา หลับมีความสุข มากกกกกกกกกก  ที่สุด  คืนนี้เราก็เป็นแขกที่พักกันสองคนทั้ง รีสอร์ท
               ตื่นเช้าวันเสาร์ที่ 30 เมษา  เราสองคนตื่น อาบน้ำ  ออกไปตักบาตร ที่วัดท่าช้าง แต่ออกไปสาย  พระกลับวัดหมดแล้ว  แม่ค้าเค้าเลยแนะนำให้เข้าไปถวายที่ศาลาฉันอาหาร  เราสองคน ก็เลยได้ถวายอาหาร และปัจจัยให้หลวงพ่อ แล้วก็กรวดน้ำ ด้วย  หลวงพ่อถามว่าโยมมาจากไหนกันละ  หลวงพ่อต้องคิดแน่ๆๆ ว่า  สองคนนี้ ต้องหนีลูกมาเที่ยว อิอิอิ หลังจาก ทำบุญเสร็จ เราก็กลับมาที่พัก  อาหารเช้าที่รีสอร์ท จัดให้ อเมริกัน เบรคฟัส  กินเสร็จ สองคนสามีภรรยาก็ได้เวลา ขึ้นเขาใหญ่ กันละ 
              ขับรถขึ้นเขาใหญ่  ผ่านด่าน จ่ายค่าด่านเรียบร้อย  เราสองคน สามี-ภรรยา  ไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่
บรรยากาศ ไม่ร้อน   คุณภรรยาที่รักได้เสี่ยงเซียมซีเจ้าพ่อเขาใหญ่ ได้ คำทำนายดีมาก

ขับรถไปตามถนน คุณภรรยายังบ่น ว่าไม่ได้เอากล้องมา เพราะผมแหละไม่ย้อนกลับไปเอา น๊าๆๆ    ผ่าน หอดูสัตว์ เราไม่ได้แวะลงไปจนถึงทำการอุทยาน เราสองคนก็ไปถามเรื่องส่องสัตว์ตอนกลางคืน ตกลง เรียบร้อย ได้ รถหมายเลข 69  อิอิ  คุณภรรยาบอกว่าได้หมายเลขทะลึ่ง เราละคิดในใจ  ไม่ทะลึ่งซะหน่อย  อิอิอิอิอิ
                ออกจากที่ทำการอุทยาน ขับรถไปจะพาคุณภรรยาไปน้ำตก เหวสุวัต กับน้ำตกผากล้วยไม้ ระหว่างทางที่ขับรถไป มีกวางกระโดดออกจากข้างทาง มาโชว์ตัว คุณภรรยา บอกขับช้าๆๆ  แล้วมันก็กระโดดเข้าป่าข้างทางไป  ถึงที่ทำการน้ำตกผากล้วยไม้ จอดรถเสร็จ มีทางเดินไป ทางเข้า ทั้งชื้น  น่ากลัว เหมือนกัน  อิอิอิ 

เดินไปจนถึงธารน้ำ  แต่คาดว่าไม่ถึงน้ำตก  คุณภรรยาบอกว่านี่แหละน้ำตก ( สงสัยจะกลัว อิอิ) ก็เลยเดินกลับ   สามีจะจูงมือเดิน  ไม่ให้จูงด้วยนะ  แบบทำว่ากล้าสุดๆๆ    ขากลับละทีนี้เป็นเรื่อง   เดินมาได้ครึ่งทางหยุดเดินบอกว่า สามี อย่าหันหน้ามานะ มีหันหลังให้อีกบอกติดกระดุมไม่หมด   พอเดินมาได้อีกนิด  ได้ยินเสียงเรียก  อิอิ แล้วยกมือกำให้ดู  ( ดีนะ ที่ไม่หลับตา) อิอิ   เราก็เดินเขาไปมองที่ มือที่กำ  แล้วคิดในใจ หนอยแน่ บังอาจมาเกาะ คุณภรรยา  ตายซะเถอะ อิอิอิ ดึงตั้งนานกว่าจะหลุด  เจ้าทากตัวนี้มันบังอาจมากเนอะ จะมากินเลือดคุณภรรยา
เดินออกมา ปิ่นบอกพี่ดาม ดูบนต้นไม้  แต่ขอโทษ อิอิ พี่ดาม ไม่เห็นหรอก  ต้องซักพักนึง  อ้อ ตัวดำๆ ขาว ๆที่ต้นไม้ พญากระรอก นี่เอง ออกมาโชว์ตัว มันกระโดดลงพื้น วิ่งไปต้นไม้อีกต้นนึง    วันนี้ ได้เจอทั้ง กวาง  พญากระรอก  อ้อ อีกตัวนึง ทากที่มันบังอาจ มาก อิอิอิ
                เปลี่ยนเป้าหมาย ไปน้ำตก เหวนรก ระหว่างขับรถไป ระหว่างทางขับรถไป อะๆๆข้างหน้ารถจอด กันทำไม  มีอะไรเหรอ  คุณภรรยาบอกว่า สงสัยจะมีช้าง ฮ่าๆๆๆ   มองไปข้างหน้า หูยย   ขาใหญ่  เดินอยู่ริมถนน มีมอเตอร์ไซด์ขับสวนมาแบบเฉยๆๆ   คุณภรรยายังบอกสงสัยเค้าจะชิน  แต่มีรถที่จอดรอสวนถอยหลังไปแล้วสองคัน   เราก็ ขับตามรถคันหน้าไป  คุณภรรยาก็ใช้โทรศัพท์ ไปถ่ายรูปไว้  แต่ ตั้งไว้ภาพนิดเดียว  เลยได้ภาพแบบลูกช้าง อิอิอิ   หันไปดู โห ขาโจ๋ สามเชือกสาดฝุ่นเล่นกันอยู่
                               ตัดไปที่ลานจอดรถ น้ำตกเหวนรก เลี้ยวรถเข้าไป มีที่จอดรถร่มๆ ว่างอยู่  แต่ไม่มีใครจอด ดีนะที่เราไม่เลี้ยวเข้าไปจอด  ไปจอดอีกที่นึง  ลงจากรถหันกลับไปดู ตรงที่จอดรถร่มๆๆ อ้อ เป็นต้นขนุนสูงๆ  บนต้นมีลูกขนุนอยู่  แถมมีป้ายบอกว่า ระวังขนุนตกใส่รถ 5555  มิน่าไม่มีใครจอด.....................

    
                ถึงด่านทางเข้าน้ำตกเหวนรก  เจ้าหน้าที่บอกว่า กิโลเดียว    ใครจะไปเชื่อเนอะ กิโลเดียว ทุกคนที่เดินสวนขึ้นมา  หน้าซีด    เหมือนได้ไปนรก  5555   เราสองคนทั้งสามี ภรรยาเดินไป  ยังยิ้ม ได้  ถือน้ำกันคนละขวด  ไม่เห็นจะมีอะไรเลย ทางเดินก็สบายๆๆ  เดินไปเรื่อยๆๆ คนเดินสวนกลับมาก็หน้าซีดๆๆ  เราเดินผ่านต้นไม้สูง  มีเสียงร้อง แล้วก็มีเม็ดอะไรไม่รู้ร่วงมาเป็ฯระยะๆ  ต้องคอยหลบดีๆ ลิงพวกนี้กินไม่กินอย่างเดียวเขวี้ยงลงมาอีก   เดินต่อไปอีก ถึงสะพานข้ามลำห้วย  เจอต้นมะลิป่า ใช่หรือป่าวน๊า  คุณภรรยาบอกว่าดอกหอมๆๆ  เดินไปเกือบถึง  ทางลง  คนที่เดินสวนกลับมาก็ยังหน้าซีดเหมือนเดิม  และแล้ว ก็ถึงทางลง สู่น้ำตก  ทั้งสองคนสามี ภรรยาจับราวบันได  ค่อยๆลง ไปๆ จนถึงชั้นล่างของน้ำตก  ขาลง นี่หน้ายังไม่ซีดกัน อิอิอิ          แต่ตอนขึ้น นี่จิ อิอิอิ นรกชัดๆๆ
มิน่าถึงได้ตั้งชื่อ น้ำตกเหวนรก อิอิอิอิ  คราวนี้ละถึงได้รู้แล้วทำไมเดินกลับขึ้นมาถึงหน้าซีดๆกัน  เหมือนไปนรก กันมานี่เอง  นรกชัดๆๆ มีคนบ่นด้วย  ใครน๊า ( ใช่คุณภรรยาหรือป่าว )
             บ่ายๆ เราก็ขับรถลงจากเขาใหญ่ย้อนกลับมาลงทางเดิม บ่ายๆๆเนอะ  แวะกินข้าวกัน  ดันไม่มีไก่ย่าง เลยสั่งตำแตงมากิน(อีกแล้วคุณภรรยา) ใครไม่กินก็ช่วยไม่ได้เนอะ  ขับรถกลับรีสอร์ท เจ้าหัวแตก ไม่ออกมารับเหมือนตอนเช้า    ถึงรีสอร์ท ก็ อาบน้ำ อิอิ   อีก อ้อ  มีอีกอย่าง   ติดเอาไว้ก่อนครึ่งนึงด้วย อิอิอิ  อาบน้ำแต่งตัวก็ได้เวลาขึ้นเขาใหญ่รอบเย็น
                รอบเย็น คุณภรรยาใส่เสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน แต่ยังสวยเหมือนเดิม  ระหว่างทางขับขึ้นไป ก่อนถึงด่าน  เจอลิงนั่งรอกันอยู่ริมถนนบ้าง กลางถนนมั่ง เยอะแยะไปหมด  เรายังคุยกัน ว่า ลิงพวกนี้น่าจะโดนรถชนมั่งละ  นั่งรอกันไม่กลัว รถเลย  ขับรถ ถึง ด่านจอดรถเรียบร้อย อะๆเราชวนคุณภรรยา เดินข้ามฟากไป อีกฝั่งนึง อะ เจ้ากวางรับแขก มาเดินต้อนรับแขก   คุณภรรยาละอุตส่าห์ ถ่ายวีดีโอ ตั้งนาน สุดท้าย บันทึกไม่ได้ อิอิอิอิ   ได้มาภาพเดียว     
                            นั่งรออยู่ตั้งนาน กว่ารถที่นัดไว้จะมา   รถที่เราจองไว้ได้ไกด์ตัวจิ๋ว เป็นคน นำทาง ส่องไฟ  รถเริ่ม  ออกวิ่งละตอนทุ่มกว่าๆรกเริ่ม  ขับวนไปตามทาง ที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้ มีกวาง เก้งเยอะมาก ไกด์ตัวจิ๋ว ส่องไฟให้เราได้ดู  อากาศเย็นๆ มาก ต้องจับมือคุณภรรยาไว้มือ เย็นๆๆมาก ดีนะ ที่คุณภรรยาใส่เสื้อแขนยาว  ระหว่าง ที่นั่งรถ  เราถามไกด์ตัวน้อย ว่าจรเข้เขาใหญ่ อยู่แถวไหน  ไกด์ตัวน้อยบอกว่าน้ำตกผากล้วยไม้  เราละนึกเลยยยย  ใช่เลยที่เราเดินกันไป ดีนะที่ไม่เจอ อิอิอิอิ    ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง  วนกลับมาตรงลานจอดรถ ได้เจอน้องเม่น อีก 2 ตัว  วันนี้   มือคุณภรรยาเย็นมาก อากาศเย็นมากบนเขาใหญ่
                ประมาณสองทุ่ม เราสองคนขับรถลงจากเขาใหญ่ รถขับตามลงมาเยอะหลายคัน เราสองคันจอดกินบะหมี่เกี๊ยว กัน ก่อนกับที่พัก แถมสามี เลี้ยว ผิดหรือไม่ผิดกันแน่เนอะ   แต่เลือกกับทางเดิม ถึงที่พัก คุณภรรยาอาบน้ำ   นอนดูทีวี แต่ เอ๊ะ คุณภรรยาไหงเงียบๆ อ้าว.......หลับไปแล้ว  เลย หอมแก้มคุณภรรยาซะหนึ่งฟ๊อด...... แล้วก็นอนหลับจนถึงเช้าเลยยยยยยยยยยยยยยยยยย
                เช้าวันอาทิตย์ ที่ 1 พฤษภาคม ตื่นมาตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง   อยากจะกวนคุณภรรยา แต่ ไม่ดีกว่าอิอิอิ คุณภรรยา บอกว่าให้รีบอาบน้ำเลยเดี๋ยวไปตักบาตรกัน  เดี๋ยวจะไม่ทันพระ  ถ้าไม่รีบเดี๋ยวจะได้ฆ่าชีวิตน้อยๆอีกเป็นล้านๆๆ อิอิอิ  ฮ่าๆๆๆๆ
               อาบน้ำแต่งตัว  เราสองคน ไปซื้อกับข้าวร้านเดิม ตั้งใจว่าจะไปถวายพระ ที่วัดป่า ที่ผ่านมา  แต่ คุณภรรยาถามว่ามีวัดป่าที่ไหนป่าวแถวนี้ แม่ค้าเค้าเลยบอกว่ามีสำกักสงฆ์  เราเลยขับออกไป ที่สำนักสงฆ์  หลวงพ่อไปบิณฑบาตร  เราสองคน เลยได้ไปใส่บาตรพระ สามองค์  และได้ฝากถวายอาหารพระที่สำนักสงฆ์ด้วย  กลับมา ที่รีสอร์ท เช้าวันอาทิตย์ ได้กินอาหารเช้า  ที่อร่อยดีเหมือนกันเนอะ  เราเก็บของออกจากรีสอร์ท เกือบๆเที่ยง   แต่ยังติดครึ่ง ทีไว้เหมือนเดิม อิอิอิ    ขากลับแวะไปที่ตลาดน้ำปากช่อง  สัญญา ไว้เลย ว่า จะมาครั้งเดียว  ที่ตลาดน้ำนี้ .........
                          
               เขาใหญ่เที่ยวนี้ ได้เจอ กวางกลางถนน พญากระรอก  ช้าง  ลิง  และยังโดน ลิงกว้างลูกไม้ใส่ด้วย กวาง
                                                            รับแขก  กวางในป่า เก้ง อีเห็น เม่น
                  คุณภรรยาประทับใจอาหารอร่อย มาก อิอิอิ ที่เขาใหญ่คีรีธาร
                                                                  ที่ลำตะคองก็อร่อย  ( หรือว่าเราสองคนหิว) อิอิอิ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น